เสียวสวาด
เป็นวรรณคดีเก่าแก่ของอีสานดั้งเดิม มีที่มาจากศัพท์ว่า “เฉลียวฉลาด”
เชื่อกันว่าแต่งขึ้นเพื่อสอนผู้ครองเมือง หรือราชสำนักเรียกว่า “อำมาตย์สอนพระราชา” อีกทั้งใช้สอนกุลบุตรกุลธิดาให้รู้จักคิดและปฏิบัติตนให้อยู่ในกรอบแห่งคุณงามความดี
2. แก่นเรื่อง
เสียวสวาด มีเนื้อหาสาระเป็นลักษณะคำสอนที่เน้นสอนทั้ง
บุรุษ สตรี ให้รู้จักปฏิบัติตนให้อยู่ในกรอบแห่งคุณงามความดี
รวมไปถึงสอนผู้ครองเมืองให้ปกครองบ้านเมืองโดยธรรม
3. โครงเรื่อง
เปิดเรื่อง
-เปิดเรื่องโดยการกล่าวถึงสองพี่น้อง
ผู้พี่ชื่อศรีเสลียว น้องชื่อเสียวสวาด
ดำเนินเรื่อง
-พ่อเรียกศรีเสลียวและเสียวสวาดมาแบ่งสมบัติและสั่งสอนคุณธรรมก่อนตาย
-เสียวสวาดลงเรือไปค้าขายกับนายสะเภาหลังจากที่พ่อตาย
-นายสะเภาแลเห็นปัญญาอันชาญฉลาดของเสียวสวาดจึงได้ยกลูกสาวให้แต่งงานกับเสียวสวาด
-นายสะเภาต้องไปเฝ้าเวรยามที่จำปานครราช
แต่เนื่องด้วยใครที่ไปเฝ้าเวรยามแล้วหลับยาม ผู้นั้นจะต้องตาย
เสียวสวาดจึงอาสาไปเฝ้าเวรยามแทนพ่อตา
-ระหว่างเฝ้าเวรยามพระราชาได้แอบย่องมาเพื่อที่จะฆ่าคนหลับเวรยาม
-เสียวสวาดไม่หลับยามเพราะมัวแต่ท่องมนต์คาถาที่พ่อเคยสอน
จึงทำให้พระราชาไม่กล้าฆ่าเวรเฝ้ายาม ทำให้ทุกคนที่หลับยามรอดตายในคืนนั้น
-พระราชาเรียกเสียวสวาดให้เข้าเฝ้า
เสียวสวาดเล่าเรื่องราวของมนต์คาถาที่ตนท่องเมื่อคืนเฝ้าเวรให้พระราชาฟัง แบบนิทานคำสอน
-ด้วยความมีปัญญาของเสียวสวาด
พระราชาจึงแต่งตั้งให้เสียวสวาดเป็นขุนราชบัณฑิต
-เสียวสวาดได้สอนฮีตคลองกษัตริย์แก่ราชาเมืองจำปาให้มีจิตใจที่เมตตา
-พระราชาปกครองเมืองจำปาอย่างมีเมตตา
ทำให้บ้านเมืองเจริญรุ่งเรือง และสงบสุข
ปิดเรื่อง
ปิดเรื่องโดยการนำคำสอน
คำกลอนสอนใจ มาปิดเรื่องตอนท้ายอีกครั้ง
ปมเรื่อง
ผู้เฝ้าเวรยามที่เมืองจำปาถ้าหลับยามจะต้องตายทุกคน
คลายปม
เสียวสวาดไม่หลับเวรยามจึงทำให้รู้ถึงสาเหตุการตายของเวรยามว่าเกิดจากการขี้ระแวงของพระราชา
ที่ออกมาฆ่าเวรยามที่หลับยาม เสียวสวาดจึงใช้ปัญญาอันชาญฉลาดนำคำกลอนมาสอนพระราชา
จนหายระแวง